Blog

บทความน่ารู้

วิธีดูแลน้องหมาหน้าย่น ให้ห่างไกลโรคผิวหนัง


ถ้าหากพูดถึงน้องหมาขนสั้นที่มีผิวหนังย่น หน้าตากวน ๆ และเป็นสายพันธุ์ที่คนไทยมักนิยมเลี้ยง หลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึงน้องหมาสายพันธุ์ปั๊ก, อิงลิช บูลล์ด็อก, เฟรนช์ บูลด็อก, ชาเป่ย เป็นต้น

ซึ่งน้องหมาสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่กล่าวมาเหล่านี้เป็นน้องหมาที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากน้องหมาสายพันธุ์อื่น ๆ อยู่ที่ผิวหนังที่มีความย่น มีใบหน้ายียวนชวนให้ผู้ที่พบเห็นอยากเข้าไปอุ้ม สัมผัสใกล้ ๆ ... แต่คุณเจ้าของรู้ไหมคะว่า น้องหมาที่มีผิวหนังยับย่นที่มีหน้าตาน่ารัก และเป็นขวัญใจของคนรักสุนัขเหล่านี้เป็นน้องหมาที่มักพบปัญหาเรื่องโรคผิวหนังได้บ่อยที่สุด นั่นก็เพราะรอยย่นของพวกเขาเป็นเหมือนจุดอับที่มักเกิดความอับชื้น ทำให้เชื้อแบคทีเรีย เชื้อยีสต์ต่าง ๆ เจริญเติบโตจนกลายเป็นโรคผิวหนัง และเกิดกลิ่นเหม็นได้ง่าย ๆ 

เทคนิคการเลี้ยงการดูแลเจ้ารอยย่นของน้องหมาให้ห่างไกลโรคผิวหนังจะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ ...

สายพันธุ์สุนัขขนสั้นที่มีปัญหารอยย่น
โดยมากแล้ว ในน้องหมาขนสั้นที่เรามักจะพบปัญหาเกี่ยวกับรอยย่นตามจุดสำคัญต่าง ๆ ของร่างกาย จะเป็นน้องหมาสายพันธุ์ที่มีลักษณะผิวหนังพับ มีร่องของรอยย่นที่มีความลึก เช่น ปั๊ก, ชาเป่ย, อิงลิช บูลล์ด็อก, เฟรนช์ บูลด็อก, บ็อกเซอร์ เป็นต้น

โดยน้องหมาสายพันธุ์ต่าง ๆ เหล่านี้มักจะพบว่าเป็นโรคผิวหนังอักเสบที่บริเวณรอยย่นได้บ่อย ซึ่งสาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบส่วนใหญ่  มักจะมาจากการที่ผู้เลี้ยงละเลยการดูแลความสะอาดของร่างกายน้องหมา ปล่อยให้น้องหมามีร่างกายสกปรกจนทำให้เกิดความหมักหมม และเมื่อผสมกับความอับชื้นที่อยู่ในบริเวณร่องของรอยย่น จึงทำให้เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อยีสต์เกิดการเจริญเติบโตจนพัฒนากลายเป็นโรคผิวหนังอักเสบ เป็นหนอง รวมถึงเกิดการเสียดสีกันเองของผิวหนังบริเวณรอยพับย่นในน้องหมาก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบที่บริเวณผิวหนังได้เช่นกันค่ะ

โดยตำแหน่งที่มักพบปัญหาผิวหนังอักเสบในน้องหมาขนสั้นที่ผิวมีลักษณะยับย่น ได้แก่ รอยย่นบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก คอ หาง และบริเวณรอบ ๆ อวัยวะเพศของสุนัขเพศเมียนอกจากนี้เรายังพบปัญหาผิวหนังอักเสบในน้องหมาที่มีลักษณะหางม้วน น้องหมาอ้วน ซึ่งในน้องหมาที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ ผู้เลี้ยงจะสามารถสังเกตุได้ง่าย ๆ โดยน้องหมาจะแสดงอาการคัน พยายามเกาบริเวณที่เป็น ขนร่วง ผิวหนังแดง เปียกชื้น มันเยิ้ม แฉะ และมีกลิ่นเหม็น 

ถ้าหากในหน้าร้อนนี้ที่มีสภาพอากาศร้อนจัดแบบนี้ น้องหมาขนสั้นที่มีผิวหนังยับย่นของผู้เลี้ยงเป็นน้องหมาที่มีผิวหนังที่บอบบางและไวต่อแสง ผู้เลี้ยงก็ยิ่งต้องดูแลและให้ความสำคัญกับผิวหนังตรงรอยย่นของน้องหมามากเป็นพิเศษ โดยการดูแลรอยย่นของน้องหมาเราจะสามารถทำได้ ดังนี้
 

1.ตรวจเช็คผิวหนังสม่ำเสมอ

การตรวจเช็คผิวหนังของน้องหมาเป็นประจำ ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่เลี้ยงน้องหมาขนสั้นที่มีผิวหนังลักษณะเป็นรอยย่น เช่น ปั๊ก บอสตันเทอร์เรีย ชาเป่ย เป็นต้น จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อสังเกตความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับผิวหนังของน้องหมา และตัวผู้เลี้ยงเองก็จะได้เตรียมรับมือรักษาโรคผิวหนังที่กำลังเกิดขึ้นกับน้องหมาได้อย่างทันท่วงที โดยผู้เลี้ยงอาจจะใช้วิธีการตรวจเช็คผิวหนังของน้องหมาด้วยการจับน้องหมาขึ้นมานั่งบนโต๊ะแล้วตรวจดูตามอวัยวะจุดสำคัญ ๆ ที่มักเกิดปัญหาผิวหนังอับเสบได้ง่าย เช่น ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว หาง อวัยวะเพศในสุนัขเพศเมีย ว่ามีผื่น รอยแดง มีหนอง หรือน้องหมาเกาผิวหนังตามจุดเสี่ยงเป็นโรคผิวหนังอักเสบหรือไม่

หากผู้เลี้ยงพบสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นบนผิวหนังของน้องหมา แนะนำให้ผู้เลี้ยงพาน้องหมาไปตรวจและขอคำปรึกษาจากสัตวแพทย์ทันที เพราะปัญหาผิวหนังของน้องหมาที่มีรอยย่นมักจะลุกลามได้ง่าย รวดเร็ว และมักจะใช้เวลาในการรักษานานกว่ากว่าน้องหมาทั่วไปที่มีผิวหนังเรียบเนียน

รวมถึงในหน้าร้อนแบบนี้ ผู้เลี้ยงอาจจะตรวจภาวะขาดน้ำในน้องหมาโดยการดึงผิวหนังบริเวณหลังขึ้นมาแล้วปล่อย หากผิวหนังของน้องหมาหดกลับภายใน 1-2 วินาที ก็แสดงว่า น้องหมาไม่มีภาวะขาดน้ำ แต่ถ้าหากผิวหนังของน้องหมาหดกลับช้ากว่า 1-2 วินาที แสดงว่า น้องหมากำลังมีภาวะขาดน้ำอยู่ค่ะ

ซึ่งวิธีแก้ไขภาวะขาดน้ำในน้องหมาพียงแค่คุณเจ้าของ เติมน้ำให้กับร่างกายของน้องหมาด้วยวิธี นำน้ำดื่มสะอาดมาให้น้องหมากิน หรือในรายที่ขาดน้ำมาก ๆ สัตวแพทย์ก็จะให้น้ำเกลือเข้าทางใต้ผิวหนัง หรือให้เข้าทางเส้นเลือด

 
2.รักษาความสะอาด
การดูแลรักษาความสะอาดร่างกายให้กับน้องหมาขนสั้นที่ผิวหนังมีลักษณะพับย่น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการดูแลความสะอาดร่างกายน้องหมาเป็นประจำ เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคผิวหนังในน้องหมาได้เป็นอย่างดี  ถ้าหากน้องหมาของเราเนื้อตัวสกปรกจากการเล่นซน  และไม่ได้รับการดูแลความสะอาดร่างกายในทันที เจ้าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราต่าง ๆ  จะใช้รอยย่นบนผิวหนังของน้องหมาเป็นบ้านหลังใหญ่ไว้เจริญเติบโต เกิดความอับชื้น ทำให้ผิวหนังของน้องหมาเกิดการอักเสบและเป็นโรคผิวหนังในที่สุด

ดังนั้นเพื่อไม่ให้เจ้าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราต่าง ๆ เจริญเติบโตบนผิวหนังของน้องหมา ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาความสะอาดให้กับน้องหมาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลรักษาความสะอาดผิวหนังของน้องหมาขนสั้นที่มีผิวหนังพับย่นก็คือ การอาบน้ำเพื่อช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ ให้หลุดออกไป โดยหลังอาบน้ำให้น้องหมาเสร็จ แนะนำว่าให้ผู้เลี้ยงเช็ดขน เป่าไดร์จนขนน้องหมาแห้งสนิท พร้อมกับตรวจสอบตามร่องรอยย่นตามจุดสำคัญ ๆ เช่น ใบหน้า โคนหาง หลังคอของน้องหมาอีกครั้งด้วยว่า ผิวหนัง หรือร่องรอยย่นยังเปียกน้ำอยู่หรือไม่ หากพบว่าร่องรอยย่นของน้องหมายังเปียกอยู่ ผู้เลี้ยงอาจใช้สำลีก้านมาเช็ดตามร่องรอยย่นแล้วเป่าด้วยไดร์ (ลมเย็นปกติ) จนแห้งสนิทเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความอับชื้นด้วยนะคะ และสำหรับผู้เลี้ยงที่เลี้ยงน้องหมาสายพันธุ์ปั๊กและชาเป่ย แนะนำว่า ให้ผู้เลี้ยงเน้นดูแลความสะอาดของน้องหมาเป็นพิเศษนะคะ เพราะน้องหมาปั๊กและชาเป่ย จะมีผิวหนังช่วงต้นคอที่มีความย่นมากกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น จึงมักพบปัญหาเรื่องมีกลิ่นตัวแรงและเสี่ยงเป็นโรคผิวหนังมากกว่าจุดอื่น ๆ บนลำตัว 

นอกจากนี้ในน้องหมาเพศผู้ก็มักพบปัญหาคราบเหลืองบริเวณใต้ท้อง ซึ่งเกิดจากปัสสาวะของน้องหมาเปรอะเปื้อน เกาะตัวเป็นคราบเหลืองแข็ง ทำให้อับชื้น ส่งกลิ่นเหม็น รวมถึงมีอาการผื่นแดงขึ้นตามผิวหนัง มีอาการขนร่วง
รวมถึงในหน้าร้อนแบบนี้ น้องหมาบางตัวอาจจะคลายร้อนด้วยการเล่นน้ำจนทำให้อุ้งเท้ามีกลิ่นเหม็น ผู้เลี้ยงจึงต้องคอยตรวจเช็คดูเพราะในแต่ละวันของน้องหมาอาจจะไปวิ่งเล่นซน เหยียบสิ่งสกปรกจนเกิดความอับชื้น ผู้เลี้ยงจึงต้องหมั่นทำความสะอาดใต้เท้าอุ้งเท้าของน้องหมา โดยใช้วิธีล้างเฉพาะอุ้งเท้า หากอวัยวะส่วนอื่น ๆ ไม่ได้เปรอะเปื้อน

 

3.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน

ส่วนมากแล้วน้องหมาขนสั้นที่มีลักษณะผิวหนังย่นจะเป็นน้องหมาที่มีผิวหนังค่อนข้างบอบบาง แพ้ง่าย ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงจำเป็นที่จะต้องใส่ใจเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังและเส้นขนที่ได้มาตราฐาน รวมถึงตรวจเช็คผลิตภัณฑ์ให้แน่ใจว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตราฐาน ผ่านการรับรอง ปราศจาคสารระคายเคือง และอ่อนโยนกับผิวหนังบริเวณใบหน้าและดวงตาของน้องหมา เพราะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังและเส้นขนน้องหมาเหล่านี้จะสัมผัสกับผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาโดยตรง หากผู้เลี้ยงใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังและเส้นขนที่ไม่ได้มาตราฐาน หรือมีสารระคายเคืองต่อผิวหนังน้องหมาผสมอยู่ เมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเข้าก็อาจจะทำให้ผิวหนังของน้องหมาอักเสบ ขนหลุดร่วง ซึ่งเป็นสาเหตุในการเกิดโรคผิวหนังในน้องหมาได้
 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นที่สุดในการดูแลผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาขนสั้นที่มีลักษณะผิวหนังพับย่นให้สะอาดอยู่เสมอก็คือ แชมพู ผู้เลี้ยงจึงควรเลือกซื้อ
•    แชมพูเป็นแบบ สูตรสำหรับสุนัขขนสั้นโดยเฉพาะ ที่จะมีส่วนผสมของครีมนวดอยู่แต่ไม่มากเท่ากับแชมพูสุนัขขนยาว และจะมีความลื่นเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยให้ผิวหนังและขนของน้องหมานุ่ม ชุ่มชื้น 
•    แชมพูสูตรระงับกลิ่นตัว ที่ส่วนมากจะสกัดมาจากสมุนไพร เช่น ตะไคร้หอม ที่มีฤทธิ์ช่วยลดปัญหากลิ่นตัวแรง ช่วยคงความสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติ มีค่าเป็นกลางไม่เป็นกรด-ด่าง 
•    แชมพูสำหรับสุนัขเป็นโรคผิวหนัง ที่สัตวแพทย์จะแนะนำให้ผู้เลี้ยงใช้ในน้องหมาที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง ซึ่งจะมีส่วนผสมของยา โดยแชมพูชนิดนี้จะสามารถช่วยรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย , เชื้อรา เห็บ, หมัด, ไร รวมทั้งโรคขี้เรื้อน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองผิวหนัง และที่สำคัญคือ เป็นแชมพูที่ปราศจากน้ำหอม
เคล็ดลับ ... ก่อนที่ผู้เลี้ยงจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังและเส้นขนน้องหมา ผู้เลี้ยงควรพิจาราณาความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ดูก่อนว่า เหมาะกับผิวหนังและเส้นขนน้องหมาของตนเองหรือไม่ โดยขอคำปรึกษากับสัตวแพทย์เพื่อขอความเห็นก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะดีที่สุด เพราะน้องหมาแต่ละตัวจะมีลักษณะผิวหนังและเส้นขนที่แตกต่างกัน การดูแลและการบำรุงจึงแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน

 

4.ให้อาหารที่มีส่วนผสมบำรุงผิวหนัง
อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า อาหารเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาในระยะยาว ฉะนั้นผู้เลี้ยงจึงควรใส่ใจและพิถีพิถันในการเลือกอาหารที่มีคุณภาพสูง และมีประโยชน์ให้กับน้องหมาขนสั้นที่มีลักษณะผิวหนังพับย่น ที่มักจะมีปัญหาเรื่องโรคผิวหนัง.......

โดยผู้เลี้ยงอาจจะเลือกอาหารเม็ดหรืออาหารเปียกสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมช่วยบำรุงผิวหนังและเส้นขนของน้องหมา เช่น อาหารที่มีส่วนผสมของ กรดไขมันโอเมก้า 3,6 DHA ที่จะช่วยบำรุงผิวหนังชุ่มชื้น ทำให้ขนเงางามนุ่มสลวยมากยิ่งขึ้น อโวคาโด ออยล์ ที่ช่วยลดการหลุดร่วงของขน และลดการผลัดขนในน้องหมา ลดอาการคันและยังช่วยให้ผิวหนังที่เป็นแผลหายเร็ว เบต้าแคโรทีน ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ทำให้น้องหมามีผิวหนังที่แข็งแรง รวมถึง แอล-คาร์นิทีน ที่จะช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในน้องหมาขนสั้นที่มีลักษณะผิวหนังพับย่นไม่ให้มีน้ำหนักตัวเกินมาตราฐานค่ะ
 

 
 
5.ควบคุมน้ำหนักให้สมส่วน
เพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่า การดูแลควบคุมเรื่องน้ำหนักของน้องหมาขนสั้นที่มีลักษณะผิวหนังพับย่น ให้ได้อยู่ในเกณฑ์ตามมาตราฐานของสายพันธุ์น้องหมา ถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยป้องกันและลดการเกิดปัญหาเรื่องโรคผิวหนังในน้องหมาได้ เพราะว่าการดูแลให้น้องหมามีน้ำหนักตัวที่สมส่วน ไม่อ้วนหรือไม่ผอมจนเกินไปจะทำให้ผิวหนังของน้องหมากระชับ แต่ถ้าหากเราไม่ควบคุมน้ำหนักให้น้องหมาหรือปล่อยให้น้องหมามีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนเกินกว่ามาตราฐานของสายพันธุ์ ผิวหนังของน้องหมาจะเกิดรอยพับเพิ่มขึ้นจากปกติ ทำให้ผิวหนังเสียดสีกัน และก่อให้เกิดผิวหนังอักเสบตามมาได้ รวมถึงการที่น้องหมามีน้ำหนักมากเกินไป ยังจะส่งผลให้ข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกายรับน้ำหนักมากเกินไป ทำให้น้องหมาเสี่ยงเป็นโรคข้อเสื่อมได้เร็วกว่าปกตินั่นเอง

ดังนั้น การดูแลควบคุมน้ำหนักของน้องหมาให้สมส่วนถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้เลี้ยงน้องหมาสายพันธุ์หน้าย่นทั้งหลายจะต้องลงมือปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด ควบคุมน้ำหนักของน้องหมาให้มีความสมส่วนอยู่เสมอ โดยแนะนำให้เน้นดูแล 2 ส่วนคือ เรื่องอาหารและการออกกำลังกายที่ต้องทำควบคู่กัน การควบคุมน้ำหนัก ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องคำนวณประมาณอาหารที่เหมาะสมในแต่ละวันกับน้องหมาด้วย โปรแกรมการคำนวณหาปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันของน้องหมา เพื่อหาค่าพลังงานที่น้องหมาต้องการในแต่ละวันเพื่อช่วยให้ผู้เลี้ยงควบคุมอาหารที่เหมาะสมให้น้องหมาได้ง่ายขึ้น
รวมถึงไม่แนะนำให้ผู้เลี้ยงให้อาหารคนหรือขนมแก่น้องหมา เพราะอาหารคนและขนมมักจะมีพลังงานที่มากเกินความต้องการในแต่ละวันของน้องหมา ทำให้เกิดการสะสมเป็นไขมันส่วนเกินได้

การดูแลน้องหมาขนสั้นที่มีผิวหนังพับย่นให้มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เลี้ยงน้องหมาทุก ๆ คนใส่ใจเพราะเมื่อน้องหมามีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง น้องหมาและตัวผู้เลี้ยงเองก็จะมีความสุข และสามารถเก็บช่วยเวลาแห่งความสุข ความรู้สึก และความทรงจำดี ๆ ที่มีร่วมกันเอาไว้ได้ตลอด

ดังนั้นคุณเจ้าของอย่าลืมดูแลน้องหมาให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ หมั่นพาน้องหมาไปตรวจร่างกายทุก ๆ 6 เดือน ควบคุมอาหารและน้ำหนัก รวมถึงพาน้องหมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อน้องหมาจะได้มีอายุยืนยาวอยู่กับคุณเจ้าของไปนาน ๆ ค่ะ

บทความโดย : Dogilike.com