Blog

บทความน่ารู้

เรียนรู้ภาษาของน้องหมา ตอนที่ 1


     ยิปปี้ แฮปปี้ เชื่อว่าหลายคนคงจะมีปัญหาไม่เข้าใจว่าท่าทางที่น้องหมาแสดงออกนั้น พวเขาต้องการสื่อว่าอะไร วันนี้เรามีเทคนิคง่าย ๆ มาแนะนำเพื่อเป็นตัวช่วยให้เพื่อน ๆ เข้าใจน้องหมามากขึ้น         
     การเรียนรู้ และทำความเข้าใจภาษากายของน้องหมานอกจากจะทำให้เขากับเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้ว อาจจะทำให้เราทราบปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับตัวน้องหมา และสามารถป้องกันได้อย่างทันท่วงทีด้วยนะคะ

 
ภาษากาย (ลักษณะท่าทางที่พวกเขาแสดงออก)  เป็นช่องทางหลักที่น้องหมาจะใช้เพื่อสื่อสารกับคุณเจ้าของ ซึ่งก็จะเกิดขึ้นจากหลากหลายอารมณ์ และความรู้สึกของน้องหมา พวกเขามักแสดงออกผ่านท่าทางต่าง ๆ ให้เราเห็น แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้เพียงแต่เป็นผู้ฟังที่ดีของเราอย่างเดียว  พวกเขาสามารถบ่งบอกถึงสิ่งที่เค้าต้องการ หรือความรู้สึกของพวกเขา ให้เราทราบได้เช่นกัน 

 ในบางครั้งท่าทางเหล่านั้นอาจเป็นท่าทางที่เข้าใจง่าย เห็นปุ๊บรู้ปั๊บ แต่ในบางครั้งเขาอาจเป็นท่าทางที่สามารถตีความไปได้ในหลายความหมาย พวกเขาแค่ต้องการบอกเราเป็นนัย ๆ แล้วให้ไปคิดต่อเอาเอง ฉะนั้นเราควรที่จะหยุดเพื่อตั้งใจดู และฟังในสิ่งที่เค้าพยายามที่จะบอกกับคุณ ไปพร้อมกับการสังเกตสถานการณ์ และสิ่งแวดล้อมรอบกาย นำเอาประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เคยพบเจอมาวิเคราะห์ เพื่อให้เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาต้องการจะบอกให้ได้มากยิ่งขึ้น โดยการแปลผลท่าทางต่าง ๆ อย่างการขยับหูหรือหาง เป็นสิ่งสำคัญที่น้องหมาทำเพื่อต้องการที่จะบอกถึงสิ่งที่เค้าเป็นอยู่ รู้สึกอยู่ แต่คุณต้องรู้ไว้เสมอว่า ในลูกหมาเด็กน้อยเค้ามักที่จะตอบสนองต่อทุก ๆ อย่างที่พบเห็น ตื่นเต้น และสนใจสิ่งแปลกใหม่ที่เข้ามา ฉะนั้นคุณควรคิดไตร่ตรองให้ดีว่าที่เค้าทำนั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร 


เริ่มต้นจากการอธิบายท่าทางของน้องหมาที่แสดงออกผ่านอวัยวะในแต่ละส่วน

1. หัวของน้องหมา

การที่น้องหมาหันหัวไปรอบ ๆ โดยไม่ได้มองไปเพียงที่ใดที่หนึ่งอาจแสดงถึงความรู้สึกไม่สบาย ไม่ปลอดภัย แต่น้องหมาที่มีความมั่นใจ หรือกำลังจะจู่โจม เขาจะมองตรงไปยังคุณ หรือสุนัขตัวอื่นอย่างแน่วแน่ ถ้าเขาเอียงหัวแล้วมองมายังคุณโดยไม่มีการเห่า หรือส่งเสียงใด ๆ แสดงถึงการแสดงความสนใจในตัวคุณค่ะ น้องหมาส่วนใหญ่จะเรียนรู้ว่าเมื่อทำท่าแบบนี้แล้วจะได้รับความสนใจจากคุณ นอกจากนี้น้องหมามักจะเอียงคอพร้อมกับทำหน้าสงสัยเวลาได้ยินเสียงแปลก ๆ แต่คุณควรตระหนักเอาไว้ว่าอาการดังกล่าวก็สามารถเกิดจากความผิดปกติของร่างกายได้เช่นกันนะคะ ไม่ว่าจะเป็น การติดเชื้อที่หู หรือมีปัญหาภายในระบบประสาท เพราะฉะนั้นต้องสังเกตดี ๆ นะคะ


2. ตาของน้องหมา

          ตาน้องหมาจะเปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์ของพวกเขา นี่เป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้คุณเข้าใจความรู้สึกของเขาได้มากขึ้นเพียงแค่มองตากันเท่านั้น
2.1. สายตาอ่อนโยน : รู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ
2.2. ตากลมโต ตาขาวโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ในบางครั้งอาจพบร่วมกับการกลอกตา : มีความวิตกกังวล กลัว หรือเครียด
2.3. ตาหรี่ลงครึ่งหนึ่ง : พอใจ หรือยอมแพ้
2.4. ตากลมโตและจ้องมายังคุณ ม่านตาเบิกกว้าง : ขู่ 
2.5. ชำเลืองมอง : เจ็บปวด กลัวมาก ๆ หรือ ขู่

3. หูของน้องหมา

     ลักษณะท่าทางของหูสุนัขเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะสังเกต และทำความเข้าใจยาก ซึ่งเจ้าของสามารถที่จะนำไปตีความได้ดังนี้ 
3.1. หูอยู่ในตำแหน่งปกติ : รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย
3.2. หูลู่ไปทางด้านหลัง : รู้สึกหวาดกลัว
3.3. หูกระดิกเล็กน้อยเมื่อเราเดินเข้าไปใกล้ : แสดงถึงความเป็นมิตร และการต้อนรับ
3.4. หูตั้งขึ้นและชี้ไปข้างหน้า : รู้สึกตื่นเต้นเมื่อคุณเล่นด้วย หรือเมื่อได้รับคำสั่ง(จากท่าทางเช่นนี้ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเขากำลังฟังคุณอยู่)
3.5. หูชี้ขึ้นฟ้า : พร้อมที่จะจู่โจม
 

4. ปากของน้องหมา

คุณเจ้าของสามารถที่จะสังเกตและตีความจากลักษณะปากของน้องหมาได้ ดังนี้
4.1. น้องหมาเปิดปากเล็กน้อย และไม่เกร็งขากรรไกร : รู้สึกผ่อนคลาย หรือแสดงการต้อนรับอย่างเป็นมิตร
4.2. น้องหมาปิดปากแน่น อาจสะบัดลิ้นและเลียจมูก : รู้สึกกดดัน หรือ กลัว 
4.3. น้องหมายกริมฝีปากขึ้นจนเห็นฟันเขี้ยว ย่นจมูก และดึงลิ้นกลับเข้าไปในปาก : ขู่ พร้อมที่จะกัด 
4.4. ทำจมูกแข็งเกร็ง ทำปากเล็ก สูดลมหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วง (อาจเห็นเเก้มป่องระหว่างหายใจ) : รู้สึกเครียด เป็นการขู่ว่าอย่าเข้ามาใกล้
4.6. น้องหมาอ้าปากกว้าง จนเห็นฟันครบทุกซี่ : รู้สึกกลัว 
4.7. น้องหมาหาว : รู้สึกเครียด และ ยอมทำตาม


5. ร่างกายของน้องหมา

          น้องหมาที่มีความมั่นใจในตัวเองก็เหมือนกับคนเรา เขาจะยืนตัวตรงสง่าผ่าเผย แต่ตัวที่ขี้กลัวเขาจะพยายามทำตัวลีบ ๆ เล็ก ๆ เหมือนพยายามแอบอยู่เสมอ อาจจะถึงขั้นหมอบลงกับพื้น คลาน กลิ้งไปกลิ้งมา หรือหงายหลังยอมให้คุณทำอะไรกับเค้าก็ได้ แต่ว่าคุณเจ้าของจะต้องไม่สับสนกับน้องหมาที่เค้านอนพักผ่อนอยู่ก่อนแล้ว หรือน้องหมาที่หมอบจากคำสั่งของเรานะคะ

6. หางของน้องหมา

          คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าการแกว่งหางไปมาของน้องหมามักแสดงถึงความสุข ความเป็นมิตร เเต่การเเกว่งหางของน้องหมาสามารถบ่งบอกถึงความรู้สึกต่าง ๆ ได้อีกด้วย
6.1. หางแกว่งไปมาช้า ๆ ในแนวนอน : รู้สึกตื่นเต้น สนใจ และกำลังประเมินสถานการณ์อยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
6.2. ชูหางขึ้นสูงกว่าปกติค้างเอาไว้ : กำลังประเมินสถานการณ์ หรือ ตื่นตัว สนใจอะไรบางอย่าง
6.3. หางต่ำและแกว่งอย่างรวดเร็ว อาจเอามาปิดบริเวณก้น : รู้สึกอ่อนแอ ไม่มั่นใจ หรือยอมแพ้
6.4. หางตั้งตรง แข็ง และอาจโบกไปมาเบาๆ : แสดงสิทธิความเป็นเจ้าของ ความมั่นใจ เริ่มรำคาญ หรือพร้อมจะจู่โจม
6.5. หางตั้งตรง แข็ง แกว่งหรือสั่นหาง : รู้สึกตื่นเต้นและมั่นใจที่จะการตอบโต้
6.6. แกว่งหางอย่างรวดเร็วไปมา หรือแกว่งเป็นวงกลม เหมือนที่ชอบพูดกันว่า “หางเป็นใบพัด” : มีความสุขมาก ทักทาย และอยากเล่นด้วย


7. ขนของน้องหมา

          การที่ขนที่แผงคอ ไหล่ หรือบริเวณหลังของน้องหมาลุกตั้งชั้นขึ้นนั้น นอกจากจะตีความหมายถึงความก้าวร้าวได้แล้ว ยังอาจจะหมายถึง ความกลัว ความตื่นเต้น และความประหม่าได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นในกรณีของขนอาจจะต้องดูประกอบกับหลาย ๆ ปัจจัยที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนะคะ


ติดตามข้อมูลดี ๆ สำหรับคนรักสัตว์ได้ที่
FB Page : Yippee Happy
ข้อมูลอ้างอิง
osdco.net