Blog

บทความน่ารู้

หมาพันธุ์เล็กกับพันธุ์ใหญ่เลี้ยงด้วยกันได้ไหม ต้องดูแลอะไรบ้างนะ!

คุณเจ้าของหลายท่านที่หลงรักทั้งน้องหมาสายพันธุ์เล็ก และน้องหมาสายพันธุ์ใหญ่ ทำให้อยากเลี้ยงน้องหมาคู่กัน แต่ก็กังวลว่า น้องหมาจะไม่สามารถเข้ากันได้ และอาจทำให้เกิดปัญหาพฤติกรรมที่ทำให้หนักใจในอนาคต

ยิปปี้ แฮปปี้ มีเทคนิคการเลี้ยงการดูแลหมาพันธุ์เล็ก และพันธุ์ใหญ่ มาแนะนำ ให้คุณเจ้าของสามารถเลี้ยงน้องหมาร่วมกันได้แบบไม่มีปัญหา จะต้องดูแลพวกเขาอย่างไรบ้างมาดูกันค่ะ


แยกประเภทอาหาร
ควรเลือกซื้ออาหารเม็ดสำเร็จรูปสูตรที่เหมาะกับความต้องการของน้องหมา และคำนึงถึงช่วงวัย เช่นน้องหมาเป็นลูกสุนัขพันธุ์เล็กก็ควรเลือกสูตรสำหรับลูกสุนัขพันธุ์เล็กโดยเฉพาะ น้องหมาพันธุ์ใหญ่ก็เลือกอาหารสูตรสำหรับน้องหมาพันธุ์ใหญ่โดยเฉพาะ เพื่อน้องหมาจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเหมาะสมกับช่วงวัย ช่วยเสริมสร้างให้น้องหมามีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ และมีภูมิคุ้มกันที่ดีค่ะ
การให้อาหารแนะนำให้แยกถ้วยอาหารให้ชัดเจน ไม่ให้กินอาหารปะปน หรือปล่อยให้น้องหมากินอาหารตามใจตัวเอง รวมถึงต้องไม่วางอาหารทิ้งเอาไว้ ควรจัดตารางเวลาการให้อาหารกับน้องหมา เช่น ให้มื้อเช้าและมื้อเย็น วางอาหารให้น้องหมากิน 15 นาที ถ้าน้องหมาไม่กินก็ให้เก็บถ้วยอาหารทันที เพื่อให้น้องหมารู้ว่าหากไม่กินอาหารก็จะพลาดอาหารมื้อนั้น ๆ ไป และเพื่อเป็นการสร้างวินัยในการกินอาหารอีกด้วย 
 
พันธุ์เล็ก พันธุ์ใหญ่ออกกำลังกายต่างกัน
น้องหมาสายพันธุ์เล็ก และสายพันธุ์ใหญ่มีความต้องการการออกกำลังกายที่ต่างกัน.....โดยน้องหมาพันธุ์เล็กจะใช้เวลาในการออกกำลังกาย และมีรูปแบบกิจกรรมการออกกำลังกายที่ไม่หลากหลายเท่าน้องหมาพันธุ์ใหญ่ เจ้าของจึงต้องดูแลเรื่องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพน้องหมาอย่างใกล้ชิด ไม่ควรหักโหมมากเกินไป อาจจะขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ก่อนจัดโปรแกรมออกกำลังกายให้น้องหมาแต่ละตัวก็ได้ค่ะ
 
•    การออกกำลังกายสำหรับน้องหมาพันธุ์เล็ก
 
 
     
การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับน้องหมาพันธุ์เล็ก ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะโดยเราควรเริ่มพาน้องหมาออกกำลังกายตั้งแต่ยังเล็ก อาจจะหาของเล่นชนิดต่าง ๆ ที่เสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง เช่น เอาลูกบอลมาปาให้น้องหมาคาบเล่น หรือใส่สายจูงพาเดิน และวิ่งเล่นวันละ 1 - 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 10 - 15 นาที โดยจะต้องอยู่ในการควบคุมของผู้เลี้ยงตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย และอาจเริ่มฝึกทักษะขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ในช่วงอายุ 4 เดือนขึ้นไปเพื่อให้น้องหมามีสมาธิ สงบ และรู้จักการความคุมอารมณ์ เช่น ฝึกให้น้องหมารู้จักฟังคำสั่งง่าย ๆ อย่างการคอย นั่ง สวัสดี เป็นต้น โดยทุกครั้งที่น้องหมาทำตามคำสั่ง ผู้เลี้ยงก็ควรแสดงความรักโดยการลูบหัว เกาตัว ชมเชยหรือให้ขนมชิ้นเล็ก ๆ เป็นรางวัล เพื่อให้น้องหมารู้สึกดีกับการฝึกทักษะค่ะ
ในน้องหมาพันธุ์เล็กที่เข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยแล้ว จะสามารถออกกำลังกายได้หลากหลายมากขึ้น แต่จะต้องเป็นการออกกำลังกายที่ไม่หักโหมมากเกินไป โดยผู้เลี้ยงอาจหาเกมส์สนุก ๆ เช่น เล่นลูกบอล วิ่งคาบของ ซ่อนสิ่งของให้น้องหมาตามหา พาน้องหมาไปวิ่งออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ ใช้เวลาประมาณ 15-20  นาที ก็พอแล้วค่ะ


•    การออกกำลังกายสำหรับน้องหมาพันธุ์ใหญ่

 
การออกกำลังกายจะคล้ายกับน้องหมาเด็กพันธุ์เล็กแต่อาจจะใช้เวลาในการออกกำลังมากกว่าเล็กน้อย โดยเวลาการออกกำลังกายที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 15-20 นาที หรือผู้เลี้ยงอาจจะใช้วิธีปล่อยให้น้องหมาเล่นตามธรรมชาติแล้วคอยสังเกตดูว่า น้องหมาออกกำลังกายอย่างเพียงพอโดยใช้เวลานานกี่นาทีแล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาเมื่อน้องหมาเริ่มโต และแข็งแรงขึ้น เช่น ปล่อยวิ่งเล่นในสนามหญ้าอย่างอิสระ เพราะเมื่อน้องหมาปลอดปล่อยพลังงานอย่างเต็มที่จนเริ่มเหนื่อย น้องหมาก็จะรู้ตัวเองว่าควรจะหยุดวิ่งเล่นเมื่อไหร่นั่นเองค่ะ
ส่วนในน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่โตเต็มวัยแล้ว จะใช้เวลานานขึ้นและมีรูปแบบการออกกำลังกายที่ค่อนข้างหลากหลาย เช่น การวิ่งหรือเดินอย่างอิสระ ที่จะช่วยทำให้น้องหมามีกระดูกที่แข็งแรง การว่ายน้ำ ที่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อขาและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายซึ่งจะช่วยชะลอการเกิดโรคกระดูกและข้ออักเสบ การกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เพื่อฝึกสปริงตัวเพราะน้องหมาจะใช้สะโพกเป็นแรงในการกระโดด (ควรระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุด้วยนะคะ) การเล่นชักเย่อ เพื่อฝึกความแข็งแรงของช่วงกราม การเล่นเก็บลูกบอล จานร่อน หรือ ของเล่นฝึกทักษะในด้านต่าง ๆ เป็นต้น 
ซึ่งการออกกำลังกายด้วยวิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่เหมาะกับลักษณะทางกายภาพ และพฤติกรรมของน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดีค่ะ
 
ฝึกให้คุ้นเคยกันตั้งแต่เด็ก
ถ้าคุณเจ้าของจะเลี้ยงน้องหมาพันธุ์เล็กร่วมกับน้องหมาพันธุ์ใหญ่แล้ว สิ่งที่ควรทำคือ ให้น้องหมาพันธุ์เล็กและพันธุ์ใหญ่สร้างความคุ้นเคยกันตั้งแต่เด็ก ๆ ค่อย ๆ ให้น้องหมาทั้งสองตัวปรับตัวเข้าหากัน โดยอาจจะเริ่มจากให้น้องหมาผลัดกันดมกลิ่นเสื้อผ้า ของใช้กันและกัน นำเสื้อผ้าที่มีกลิ่นน้องหมาอีกตัวมาวางไว้ในกรงของน้องหมาอีกตัวเพื่อให้คุ้นเคยกัน เมื่อน้องหมาเริ่มชินกับการได้กลิ่นของน้องหมาอีกตัว ก็อาจจะอุ้มน้องหมาทั้งสองตัวมาอยู่ใกล้ ๆ ให้ทำความรู้จัก ทักทายกัน เมื่อเห็นว่า น้องหมาทั้งสองตัวไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อต้านก็ค่อย ๆ ให้น้องหมาอยู่ด้วยกันมากขึ้น

อาจใช้ของเล่นเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างน้องหมาก็ได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ ของเล่นที่ดีสำหรับน้องหมา ควรเลือกขนาดที่พอเหมาะกับเขา โดยเลือกที่มีขนาดที่ไม่เล็ก หรือใหญ่เกินไป และต้องเป็นของเล่นที่ปลอดภัย ทำจากวัสดุที่ผ่านมาตรฐานการรับรอง ปลอดสารพิษ หรือสังเกตได้จากคำว่า no toxic materials เนื่องจากพวกเขาจะเล่นของเล่นด้วยการ กัด หากของเล่นมีสีลอก หรือทำจากวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพ ก็อาจเป็นอันตรายกับสุขภาพของน้องหมาในระยะยาวได้ค่ะ 
 
พาเข้าสังคม ช่วยปรับตัวเข้าหากัน
ในวันหยุด อาจจะพาน้องหมาไปออกกำลังกายนอกบ้าน ให้เขาได้ทำกิจกรรมร่วมกัน และให้เขาได้พบปะกับเพื่อนสุนัขตัวอื่น ๆ ทำให้น้องหมาสามารถปรับตัวเข้ากับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ได้ดีขึ้น ช่วยบริหารประสาทสัมผัสต่าง ๆ ตามสัญชาตญาณของเขา และที่สำคัญการพาน้องหมาเดินออกกำลังกายจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้แก่ผู้เลี้ยงและน้องหมาได้เป็นอย่างดีค่ะ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะทำให้น้องหมาเริ่มเรียนรู้ทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคม แนะนำว่าควรพาน้องหมาไปเข้าสังคมตั้งแต่อายุประมาณ 3-4 เดือน  ที่เป็นช่วงกำลังเรียนรู้ประสบการณ์การต่าง ๆ จะทำให้เขามีพลังงานสมดุล อารมณ์มั่นคง ไม่หวั่นไหว หรือตื่นตกใจง่าย จะช่วยทำให้น้องหมาเติบโตมาเป็นน้องหมาที่เป็นมิตร มีพลังงานที่ดี อ่อนโยน และไม่ก้าวร้าวนั่นเองค่ะ

การจะเลี้ยงน้องหมาพันธุ์ใหญ่ร่วมกับน้องหมาพันธุ์เล็กไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมคะ เพียงแต่เราต้องค่อย ๆ ให้น้องหมาทั้งสองตัวสร้างความคุ้นเคย ค่อย ๆ ปรับตัวเข้าหากัน เพียงเท่านี้น้องหมาทั้งสองตัวก็แฮปปี้ เจ้าของอย่างเราเองก็สบายใจแน่นอนค่ะ

บทความอ้างอิง : dogilike.com